เฮดโฟน Beats Solo Pro Wireless Noise Cancelling - สีขาวครีม
-
฿10,500.00
ผ่อนชำระด้วยบัตรเครดิตเริ่มต้นเพียง ฿1,050.00 ต่อเดือน
Citibank, SCB, KBank และ UOB 0% นาน 10 เดือน -
-
ภาพรวม
เสียงที่เป็นแรงบันดาลใจ
ค้นพบแรงบันดาลใจไปกับเฮดโฟนไร้สาย Solo Pro Solo Pro มาพร้อมโหมดการฟังถึง 2 โหมด ได้แก่ โหมด Active Noise Cancelling (ANC) และโหมด Transparency ที่จะให้คุณภาพเสียงอย่างที่คุณต้องการ โดย Pure ANC ของ Beats จะทำให้คุณมีพื้นที่ของตัวเองในการสร้างเสียงที่ดื่มด่ำเต็มอารมณ์ ส่วนโหมด Transparency จะช่วยให้คุณรับรู้เสียงรอบข้างได้ ทุกๆ รายละเอียดของ Solo Pro ได้รับการใส่ใจอย่างพิถีพิถัน ลงลึกถึงวิธีการใช้งานพื้นฐานของการเปิดปิดเฮดโฟนขณะพับเก็บ การออกแบบตามหลักการยศาสตร์ให้ความรู้สึกสบายเป็นพิเศษเพื่อให้คุณสวมใส่ได้ยาวนานยิ่งขึ้นในสไตล์ที่เรียบหรู อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 22 ชั่วโมง คุณจึงฟังเพลงได้ต่อเนื่องตลอดวันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
เสียงที่คุณควบคุมได้
Solo Pro อัดแน่นไปด้วยแพลตฟอร์มเสียงล้ำสมัยที่ให้โทนเสียงทรงพลัง เร้าอารมณ์ และสมดุล Solo3 Wireless สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคโนโลยีเสียงที่มีรางวัลรับประกันคุณภาพ เพราะเราใช้กระบวนการทางวิศวกรรมและทำการอัพเกรดโปรไฟล์เสียงเพื่อประสบการณ์การฟังดนตรีที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการปิดกันหรือเปิดตัวเองกับโลกด้วยโหมดการฟังที่แตกต่างกันถึง 2 โหมด คุณสมบัติ Pure ANC ของ Beats จะตัดเสียงรบกวนจากภายนอกให้อยู่ตลอด และใช้การปรับเทียบเสียงแบบเรียลไทม์เพื่อรักษาความคมชัด ช่วงเสียง และอารมณ์ ให้คุณมีพื้นที่ส่วนตัวที่คุณต้องการใช้สร้างสรรค์และมีแรงบันดาลใจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะตัดเสียงรบกวนแบบเจาะจงอย่างต่อเนื่องในขณะที่ปรับแต่งเสียงตามการเล่นเพลงแต่ละเพลงโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ เสริมคุณภาพผลลัพธ์ด้านเสียงให้เติมประสิทธิภาพเพื่อคงไว้ซึ่งประสบการณ์ฟังเพลงระดับพรีเมียม
Solo Pro สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งของคุณได้อย่างสะดวกสบาย ให้คุณไปได้ทุกที่ที่โลกนี้จะพาคุณไป เพราะไม่ใช่ทุกสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้การตัดเสียงรบกวน สิ่งเดียวที่เรารู้ดีว่าคุณต้องอยู่เสมอก็คือเสียงเพลง โหมด Transparency คือตัวกรองเสียงให้เป็นธรรมชาติที่ให้เสียงรอบข้างและบรรยากาศรอบตัวชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมๆ กับรักษาคุณภาพเสียงที่ให้น่าทึ่งอยู่ตลอดเวลา คุณสามารถสลับโหมดทั้ง 2 โหมดไปมาได้ง่ายๆ ด้วยการกดปุ่มเบาๆ คุณจึงได้ยินเสียงที่ต้องการในสถานการณ์ที่ต้องการได้ดั่งใจอยู่เสมอ
สไตล์ที่มาพร้อมความสบาย
ขั้นตอนการออกแบบมุ่งเน้นที่หลักการยศาสตร์เพื่อให้มั่นใจว่าจะสวมใส่ได้สบายเพื่อการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น ขาหูฟังด้านข้างแบบโลหะปัดผิวสามารถปรับได้และให้ความแข็งแรงทนทานดีกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็ให้การควบคุมที่กลมกลืนไปกับที่ครอบหูเพื่อการใช้งานที่ง่ายดายด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบหรูมีสไตล์ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความแข็งแรงทนทานแต่ยังคงรูปโฉมที่สง่างามให้ความรู้สึกเรียบหรูดูแพง
มอบพลังเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
เราสร้างให้เป็นเฮดโฟนรุ่นแรกที่มีระบบเปิดปิดอัตโนมัติ เพียงแค่กางออกและพับเก็บเพื่อการใช้งานที่แสนง่ายดาย Solo Pro ยังมีพลังเพื่อสร้างแรงบันดาลใจได้ให้คุณฟังเพลงได้นานสูงสุดถึง 22 ชั่วโมง ในโหมดการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเปิดใช้โหมด ANC หรือโหมด Transparency และเมื่อคุณปิดทั้ง 2 โหมด คุณก็จะฟังเพลงด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 40 ชั่วโมง ในโหมดประหยัดพลังงาน และเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด แต่คุณต้องการฟังเพลงให้นานขึ้นอีกนิด การชาร์จแบบ Fast Fuel เพียง 10 นาที ก็เพียงพอให้คุณสนุกได้นานถึง 3 ชั่วโมง1
ต่อติดอยู่เสมอ ในโลกแห่งเสียงเพลงของคุณเอง
มาพร้อมเทคโนโลยี Class 1 Bluetooth เฮดโฟนไร้สายรุ่นนี้จึงให้ช่วงเสียงได้กว้างกว่าเดิมและมีเสียงสะดุดน้อยลง คุณจึงฟังดนตรีได้ต่อเนื่องไม่ว่าวันของคุณจะพาไปทิศทางไหนก็ตาม อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวสำหรับตรวจจับเสียงและไมโครโฟนรูปแบบบีมคู่จะค้นหาเป้าหมายเสียงของคุณ แล้วคัดกรองเอาเสียงรบกวนออกไปเพื่อประสิทธิภาพการโทรที่ดีเยี่ยมไม่มีใครเหมือน ปุ่มควบคุมบนเฮดโฟนแบบในตัวที่ใช้งานได้ง่ายช่วยให้คุณรับสาย ข้ามเพลง และปรับระดับเสียงได้โดยตรงจากที่ครอบหู แถมยังหยิบออกมาใช้ได้ง่าย เพียงแค่กางเฮดโฟนออกเพื่อเปิดใช้งาน แล้วจากนั้นเฮดโฟนก็จะเชื่อมต่อกับ Apple Watch, iPad หรือ Mac ของคุณได้เองอัตโนมัติ2
แค่บอก Siri
คุยกับผู้ช่วยส่วนตัวคนโปรดของคุณได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคย เพียงแค่พูดว่า "หวัดดี Siri" คุณก็จะพบกับผู้ช่วยส่วนตัวที่สั่งการได้ด้วยเสียงโดยไม่ต้องเอื้อมไปหยิบ iPhone ของคุณ3 Solo Pro ขับเคลื่อนชิพสำหรับเฮดโฟน Apple H1 รุ่นใหม่ จึงให้การเชื่อมต่อแบบไร้สายกับอุปกรณ์ของคุณได้รวดเร็วกว่าเดิมและสเถียรยิ่งกว่าที่เคย4
เพลงเดียว ฟังสองคน
คุณสมบัติการแชร์เสียงจะช่วยให้คุณสามารถแชร์เสียงในแบบไร้สายได้ระหว่าง Solo Pro กับเฮดโฟน Beats5 หรือ AirPods ตัวอื่นๆ ที่จับคู่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเพลง พ็อดคาสท์ หรือแม้แต่ภาพยนตร์ ถ้าฟังด้วยกันก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก ตอนนี้คุณสามารถแชร์สิ่งที่กำลังฟังบน iPhone หรือ iPad ได้ง่ายๆ และควบคุมความดังที่ตัวเองฟังได้จากอุปกรณ์แต่ละรายการ เพียงแค่นำเฮดโฟนชุดที่สองเข้ามาใกล้อุปกรณ์ Apple ของคุณแล้วก็เชื่อมต่อได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว ที่เหลือคุณก็แค่ฟังเพลงด้วยกัน
ไฮไลท์
Active Noise Cancelling (ANC) จะตัดเสียงรบกวนจากภายนอก
Pure ANC ของ Beats จะปรับเสียงรบกวนภายนอกและทำให้ลงตัวพร้อมๆ กับรักษาคุณภาพของเสียงไว้
โหมด Transparency จะช่วยให้คุณระมัดระวังสิ่งแวดล้อมไปด้วยได้ขณะกำลังฟังเพลง
ระบบเสียงอะคูสติค
ฟังเพลงได้นานสูงสุดถึง 22 ชั่วโมง (สูงสุด 40 ชั่วโมง เมื่อปิดโหมด ANC และโหมด Transparency)1
คุณสมบัติ Fast Fuel จะทำให้คุณฟังเพลงได้นานถึง 3 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จเพียง 10 นาที เมื่อแบตเตอรี่ต่ำ
ระบบเปิดปิดอัตโนมัติเมื่อคุณกางออกและเมื่อพับเก็บเฮดโฟน
ออกแบบตามหลักการยศาสตร์เพื่อความสบายสูงสุดและให้คุณสวมใส่ได้ยาวนานขึ้น
มาพร้อมระบบควบคุมดนตรี สายโทรเข้า และการใช้งานเสียง แบบ On-ear ในตัวที่ใช้งานง่าย
คำสั่งเสียงแบบแฮนด์ฟรี "หวัดดี Siri"3 พร้อมความเร็วในการเชื่อมต่อที่รวดเร็วยิ่งขึ้น4 ด้วยชิพหูฟัง Apple H1
ประสิทธิภาพการโทรและการรับสายโทรศัพท์ที่ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น
Class 1 Bluetooth ให้ช่วงเสียงได้กว้างกว่าเดิมและมีเสียงสะดุดน้อยลง
แชร์เสียงแบบไร้สายได้ทั้งเพลง พ็อดคาสท์ รวมถึงภาพยนตร์ ระหว่าง Solo Pro กับเฮดโฟน Beats หรือ AirPods อีกชุดด้วยคุณสมบัติการแชร์เสียง5
สิ่งที่มีมาให้ในกล่อง
เฮดโฟนไร้สาย Solo Pro
กล่องเก็บเฮดโฟน
สายชาร์จ Lightning เป็น USB-A
คู่มือเริ่มต้นแบบรวดเร็ว
ใบรับประกัน
ข้อมูลทางเทคนิค
ฟอร์มแฟกเตอร์: ครอบหู
การเชื่อมต่อ: Bluetooth, ไร้สาย
แหล่งพลังงาน: พลังงานแบตเตอรี่
แบตเตอรี่: ลิเธียมไอออนชนิดชาร์จซ้ำได้
ความสูง: 17.9 ซม./7.05 นิ้ว
น้ำหนัก: 267 กรัม/9.42 ออนซ์
-
รุ่นของ iPhone
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone 12 mini
- iPhone 12
- iPhone 11 Pro
- iPhone 11 Pro Max
- iPhone 11
- iPhone SE (รุ่นที่ 2)
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone XR
- iPhone X
- iPhone 8
- iPhone 8 Plus
- iPhone 7
- iPhone 7 Plus
- iPhone 6s
- iPhone 6s Plus
- iPhone SE (รุ่นที่ 1)
รุ่นของ iPad
- iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 4)
- iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 3)
- iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 2)
- iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 1)
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 2)
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 1)
- iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว
- iPad Pro รุ่น 9.7 นิ้ว
- iPad Air (รุ่นที่ 4)
- iPad Air (รุ่นที่ 3)
- iPad Air 2
- iPad (รุ่นที่ 8)
- iPad (รุ่นที่ 7)
- iPad (รุ่นที่ 6)
- iPad mini (รุ่นที่ 5)
- iPad (รุ่นที่ 5)
- iPad mini 4
รุ่นของ Mac
- MacBook Air (จอภาพ Retina, รุ่น 13 นิ้ว, ปี 2020)
- MacBook Air (จอภาพ Retina, รุ่น 13 นิ้ว, ปี 2018 - 2019)
- MacBook Air (รุ่น 13 นิ้ว ต้นปี 2015 - 2017)
- MacBook Air (รุ่น 11 นิ้ว ต้นปี 2015)
- MacBook Pro (รุ่น 13 นิ้ว, ปี 2020)
- MacBook Pro (รุ่น 16 นิ้ว ปี 2019)
- MacBook Pro (รุ่น 13 นิ้ว, ปี 2016 - ปี 2019)
- MacBook Pro (รุ่น 15 นิ้ว ปี 2016 - 2019)
- MacBook Pro (Retina, รุ่น 13 นิ้ว ปลายปี 2012 - 2015)
- MacBook Pro (Retina, รุ่น 15 นิ้ว กลางปี 2012 - 2015)
- MacBook (Retina, รุ่น 12 นิ้ว ต้นปี 2015 - 2017)
- iMac (Retina 4K, รุ่น 21.5 นิ้ว, ปี 2019 และใหม่กว่า)
- iMac (Retina 5K, รุ่น 27 นิ้ว, ปี 2019 และใหม่กว่า)
- iMac (Retina 4K, รุ่น 21.5 นิ้ว ปี 2017)
- iMac (Retina 5K, รุ่น 27 นิ้ว ปี 2017)
- iMac (Retina 4K, รุ่น 21.5 นิ้ว ปลายปี 2015)
- iMac (Retina 5K, รุ่น 27 นิ้ว ปลายปี 2014 - 2015)
- iMac Pro (ปี 2017 และใหม่กว่า)
- Mac Pro (2019)
- Mac Pro (ปลายปี 2013)
- Mac mini (ปี 2018)
- Mac mini (ปลายปี 2014)
รุ่นของ Apple Watch
- Apple Watch Series 6
- Apple Watch SE
- Apple Watch Series 5
- Apple Watch Series 4
- Apple Watch Series 3
- Apple Watch Series 2
- Apple Watch Series 1
Apple TV รุ่นต่างๆ
รุ่นของ iPod