โลโก้ใหม่สำหรับโครงการความเป็นกลางทางคาร์บอนของ Apple
วันนี้ Apple ประกาศความคืบหน้าในการขจัดคาร์บอนในซัพพลายเชนของตนเองทั่วโลกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยในขณะนี้ผู้ผลิตกว่า 300 รายได้ให้คำมั่นที่จะใช้พลังงานสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์ในการผลิตให้ Apple ภายในปี 2030 โดยคำมั่นสัญญาใหม่จากซัพพลายเออร์กว่า 50 รายในสหรัฐฯ, ยุโรป และเอเชีย ได้ทำให้โครงการพลังงานสะอาดสำหรับซัพพลายเออร์ของ Apple เติบโตเพิ่มขึ้น ทำให้ในตอนนี้มีมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของซัพพลายเออร์ที่ผลิตให้กับบริษัทโดยตรง หลักชัยนี้ทำให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายอันทะเยอทะยานของตนเองที่จะทำให้ทุกผลิตภัณฑ์มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030
"ขณะที่เราพบกับอุณหภูมิที่ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติการณ์และพายุที่สร้างความเสียหายร้ายแรง เราทุกคนต่างก็มีความรับผิดชอบที่เร่งด่วนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และป้องกันผลกระทบอันเลวร้ายจากความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" Sarah Chandler รองประธานฝ่ายนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและซัพพลายเชนของ Apple กล่าว "ที่ Apple เราภูมิใจที่ซัพพลายเออร์จำนวนมากของเรากำลังช่วยกันในขณะที่เรามุ่งสู่อนาคตที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน"
ยุทธศาสตร์ 2030 ของ Apple ซึ่งมีความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินการขององค์กรมาตั้งแต่ปี 2020 เน้นไปที่เป้าหมายซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 75 เปอร์เซ็นต์ภายในปลายทศวรรษ นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา Apple ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับซัพพลายเออร์ของตนเองทั่วโลก เพื่อจัดการกับพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตให้ Apple โดยการผลิตเป็นแหล่งที่ใหญ่ที่สุดของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในคาร์บอนฟุตพรินต์ของบริษัท และการใช้พลังงานสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์ถือเป็นปัจจัยหลักในการทำให้ผลิตภัณฑ์ Apple ทั้งหมดมีความเป็นกลางทางคาร์บอน อย่างเช่นที่เกิดขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Apple Watch ใหม่
ซัพพลายเออร์ซึ่งดำเนินงานอยู่ใน 28 ประเทศได้ให้คำมั่นที่จะนำพลังงานหมุนเวียนจำนวน 20 กิกะวัตต์มาใช้ผ่านทางโครงการพลังงานสะอาดสำหรับซัพพลายเออร์ของ Apple โดยพันธมิตรรายใหม่ที่เพิ่งให้คำมั่นในการยกระดับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการผลิตรวมถึง Skyworks Solutions, Analog Devices, Cirrus Logic พร้อมด้วยอีกหลายรายในสหรัฐฯ และ Renesas Electronics ในประเทศญี่ปุ่น จำนวนของซัพพลายเออร์ในเกาหลีซึ่งเข้าร่วมโครงการก็เติบโตขึ้นเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ เป็น 23 ราย ส่วนในประเทศจีน บริษัทมากกว่า 14 แห่งได้สัญญาที่จะใช้พลังงานสะอาดมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 รวมถึง Jingmen GEM ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของวัสดุรีไซเคิลหลักๆ ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ Apple สำหรับในยุโรป บริษัทอย่างเช่น Sappi Limited, LeMur และ Schoeller Textil AG ที่เพิ่งเข้าร่วมเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ทำให้มีจำนวนซัพพลายเออร์รวมแล้ว 34 ราย
Apple ได้ติดตามความก้าวหน้าในแต่ละปีของซัพพลายเออร์ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขต 1 และขอบเขต 2 มาโดยตลอด และเมื่อปลายปี 2022 บริษัทก็ได้เรียกร้องให้ซัพพลายเออร์ขจัดคาร์บอนออกจากการผลิตให้ Apple ให้ได้ภายในปี 2030 โดยในปี 2022 ได้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนขนาด 13.7 กิกะวัตต์ในซัพพลายเชนของ Apple ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวน 17.4 ล้านเมตริกตัน เทียบเท่ากับการนำรถยนต์ออกจากท้องถนนเกือบ 3.8 ล้านคัน ด้วยการสนับสนุนจาก Apple ในการจัดหาแหล่งพลังงานหมุนเวียนคุณภาพสูง ซัพพลายเออร์จำนวนมากก็ได้เลือกที่จะขจัดคาร์บอนนอกเหนือไปจากการผลิตให้ Apple อีกด้วย
ผลจากความพยายามในด้านสิ่งแวดล้อมของ Apple ทำให้บริษัทตัดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยรวมของตนเองลงได้กว่า 45 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่ปี 2015 แต่ถึงกระนั้นรายได้ของบริษัทก็ยังคงเติบโตขึ้น Apple ยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องในแนวทางอันสร้างสรรค์ด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ เทคโนโลยีการรีไซเคิลใหม่ๆ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูของบริษัท และตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมูลค่า 47,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคืบหน้าด้านสิ่งแวดล้อมของ Apple ได้ที่ apple.com/th/2030

Media

  • เนื้อหาของบทความนี้