เปิดในหน้าต่างใหม่
ภาพคอลลาจที่เต็มไปด้วยสีสัน ซึ่งมี MONICA, พอส — นฤกร อิษฏาวรางกูร, แพนเค้ก — อิษฏารี อิษฏาวรางกูร และ TIGGER อยู่บนรูปภาพ
MONICA, พอส — นฤกร อิษฏาวรางกูร, แพนเค้ก — อิษฏารี อิษฏาวรางกูร จากวง Yes Indeed และ TIGGER กำลังสร้างคลื่นลูกใหม่ในวงการดนตรีไทยด้วย Mac และระบบนิเวศของ Apple บนเส้นทางด้านความคิดสร้างสรรค์ในแบบของตนเอง
นักสร้างสรรค์ 14 พฤศจิกายน 2568
เมื่อเสียงดนตรีที่คุ้นหูดังขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางบรรยากาศภายในสตูดิโอ GMM Grammy แม้จะเป็นท่วงทำนองรู้จักกันดีในหมู่คนไทย แต่ครั้งนี้เสียงที่ได้ยินกลับแตกต่างออกไป ทั้งจังหวะของดนตรีที่อบอุ่น และละเอียดขึ้น เต็มไปด้วยมิติและพลังให้ความรู้สึกที่ไร้กาลเวลาและร่วมสมัยในเวลาเดียวกัน
แน่นอนว่าบทเพลงที่เต็มไปด้วยคุณภาพ เสียง และอารมณ์ เหล่านั้น ล้วนเป็นมาผลงานที่จากฝีมือของวง COCKTAIL หนึ่งในวงร็อกขวัญใจคนไทย ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่มากมายได้เริ่มต้นเส้นทางการเป็นศิลปิน ตั้งแต่ได้เลือกเล่นเครื่องดนตรี จรดปลายปากกาเพื่อเขียนเพลงท่อนแรก ไปจนถึงเปิดแอปพลิเคชัน GarageBand เป็นครั้งแรกในชีวิต
เนื่องในโอกาสที่วง COCKTAIL จะอำลาเวทีและปิดฉากตำนานอย่างงดงามหลังจากร่วมสร้างสรรค์ห้วงดนตรีและเนื้อร้องอันไพเราะมายาวนานกว่า 20 ปีนี้ ทำให้เกิดเป็นโปรเจ็กต์พิเศษที่รวมศิลปินรุ่นใหม่ทั้ง 9 มาร่วมกันถ่ายทอดเพลงสุดไอคอนิกทั้ง 9 แทร็ก ภายใต้ชื่ออัลบั้ม Ours Ever - Tribute to COCKTAIL ผ่านมุมมองตัวเอง และครีเอทเพลงขึ้นมาใหม่อีกครั้งกับวิธีที่ต่างไปจากเดิม เริ่มต้นจากบนเครื่อง Mac
ซึ่งในอัลบั้มพิเศษนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การคารวะให้กับตำนานของวง COCKTAIL เท่านั้น แต่ยังเป็นการนำเพลงเดิมกลับมาตีความใหม่ ผ่านเสียงในมิติของ Spatial Audio และแชร์มุมมองของศิลปินรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีจาก Mac และ Logic Pro เป็นคู่คิดในด้านครีเอทีฟและการสรรค์สร้างผลงาน
ซึ่งหลังจากที่ศิลปินทั้งหมดได้ผ่านกระบวนการทำเพลงแล้ว ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่า ทั้ง Logic Pro และ Spatial Audio ที่เป็นตัวช่วยการโปรดิวซ์ครั้งนี้ทำให้แต่ละเพลงมีชีวิตชีวาอีกครั้งในมิติใหม่ “ทั้งสองตัวช่วยนี้ ทำให้เสียงดนตรีเหมือนเป็นอีกโลกที่เราก้าวเข้าไปได้จริง ๆ และมันยิ่งทำให้คนฟังได้ยินเพลงของพี่ ๆ วง COCKTAIL ในแบบฉบับที่เป็นตัวเรา เหมือนได้ยินเพลงที่อยู่ในหัวของเราไปพร้อม ๆ กัน” TIGGER หนึ่งในศิลปินของโปรเจ็กต์พิเศษนี้กล่าว
MONICA ทำเพลงด้วย Logic Pro บน MacBook Pro
MONICA ที่เพิ่งเคยใช้ Mac เป็นครั้งแรก กำลังลองเล่นกับสเต็มบนแทร็กเดโมบน Logic Pro เธอนำเพลง "งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง" ของวงกลับมาตีความใหม่ด้วยสไตล์ R&B ชวนฝันในระบบเสียงตามตำแหน่งบน MacBook Pro สำหรับอัลบั้มนี้

เมื่อทำนองที่คุ้นเคยได้ถูกนำมาตีความใหม่อีกครั้ง

โปรเจ็กต์พิเศษนี้เปรียบเหมือนการเดินทางที่แสนอบอุ่นและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจสำหรับคู่ดูโอ้พี่น้องจากวง Yes Indeed
ที่มีสตูดิโอในบ้านกับบรรยากาศแบบสบาย ๆ รายล้อมไปด้วยกีตาร์ สายเคเบิล และ MacBook Pro เพียงหนึ่งเครื่อง ที่ได้กลายเป็นหัวใจหลักของกระบวนการสร้างสรรค์ทางดนตรีทั้งหมด
พอส — นฤกร อิษฏาวรางกูร นักร้องนำและมือกีตาร์ จากวง Yes Indeed เล่าว่า “เราเริ่มลองผิดลองถูกจาก GarageBand ไปเรื่อย ๆ แต่พอได้ลองใช้ Logic Pro แล้วก็รู้เลยว่ามันใช่เลย ทั้งใช้งานง่าย ทำให้ทุกอย่างดูมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น และต่อยอดได้อีกเยอะมาก ๆ”
พร้อมเสริมว่า “เพลงของ COCKTAIL มีพลังที่สามารถบอกเล่าความรู้สึกและเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งเราอยากเก็บอารมณ์ของเพลงนั้นไว้ และเติมเอกลักษณ์ของ Yes Indeed เข้าไปให้บรรยากาศมีความล่องลอยเหมือนอยู่ในความฝันมากขึ้น”
ทั้งคู่ทำงานทั้งหมดใน Logic Pro โดยเริ่มตั้งแต่การแยกโครงสร้างของเพลง ‘ช่างมัน’ ของ COCKTAIL ออกมาทั้งหมดก่อน แล้วค่อยสร้างแต่ละชั้นขึ้นมาใหม่ โดยให้ซินธ์มาแทนเสียงกีตาร์ และเปลี่ยนคอร์ดของกีตาร์แนวร็อคให้เป็นเสียงประสานหลายชั้นเข้ามาแทน
“พวกเราอัดไกด์เสียงกีตาร์กับเสียงร้องไว้ใน Voice Memos บน iPhone ก่อน แล้วค่อยใส่ memo ที่ไร้การตัดต่อนั้นเข้ามาใน Logic Pro บน MacBook Pro สิ่งที่ยอดเยี่ยมและพลิกเกมที่สุดคือฟีเจอร์ Stem Splitter ที่ช่วยให้เราแยกองค์ประกอบของเพลงออกมาทำงานได้ ทำให้การรีโปรดิวซ์เพลงใหม่นี้ทั้งสนุกและมีอิสระได้เยอะขึ้นมาก ๆ”
Spatial Audio มอบมิติใหม่ให้กับการเรียงร้อยเพลง indie-rock อันเป็นเอกลักษณ์ของวง โดยเฉพาะเสียงอันอบอุ่นและใกล้ชิดยิ่งขึ้นของกีตาร์อะคูสติก โดย แพนเค้ก — อิษฏารี อิษฏาวรางกูร นักร้องนำของ Yes Indeed เล่าเสริมว่า “เราหยิบเพลงเร็วมาทำให้เป็นเพลงช้า ซึ่ง Spatial Audio มอบพื้นที่ให้เราได้ทดลองเล่นกับเสียงเยอะมาก ๆ เมื่อได้ลองฟังแล้วจะรู้สึกถึงความลึกของเสียง เหมือนดนตรีมีชีวิตจริง ๆ”
ความเปลี่ยนแปลงของเพลง’ช่างมัน’ในเวอร์ชันนี้น่าทึ่งมากๆ โดยเพลงจะยังคงยังคงแก่นอารมณ์ของ COCKTAIL ไว้แต่ผู้ฟังจะได้สัมผัสบรรยากาศและท่วงทำนองที่สบาย ๆ เสมือนล่องลอยในอากาศตามสไตล์ของ Yes Indeed 

เชื่อมต่อวัฒนธรรมไทยและความร่วมสมัยในดนตรีสากล

MONICA ศิลปินหญิงเจนใหม่ผู้หลงใหลในดนตรีไทยเดิม เธอคือสะพานที่เชื่อมระหว่างโลกของวัฒนธรรมไทย และโลกของดนตรีระดับสากลที่เธอใฝ่ฝันจะก้าวไปให้ถึง
เธอเลือกเพลง “งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง” มาตีความใหม่ให้เป็นเพลงรักที่อบอุ่นและมีเสน่ห์เฉพาะตัว MONICA เล่าว่า “ฉันอยากให้เพลงเล่าเรื่องราวของฉัน โดยการเติมกลิ่นอายฮิปฮอปจังหวะใหม่ และท่อนแอดลิบส์ (ad-libs) แบบไทยที่เป็นซิกเนเจอร์เข้าไปในผสมสลานกับเสียงซินธ์”
MONICA เล่าต่ออีกว่า “ฉันเพิ่งใช้ Mac เป็นครั้งแรก บอกเลยว่าการได้ค้นพบศักยภาพของมันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุด มันทำให้ฉันสามารถเปิดหลายแอป creative ทำงานไปพร้อม ๆ กันได้แบบไม่สะดุดเลย ฉันสามารถเปิดทุกสิ่งที่ต้องการ และให้ทุกอย่างทำงานร่วมกันได้อย่างง่ายดาย แล้วชิป M4 Max ก็แรงมาก ไม่ว่าโปรเจ็กต์จะใหญ่แค่ไหนก็เอาอยู่”
MONICA ร้องเพลงใส่ไมโครโฟนในสตูดิโอเพลง
MONICA เติบโตมากับการฟังเพลงของ COCKTAIL และเพลงทริบิวต์ของเธอในอัลบั้มนี้คือทั้งการเคารพและวิวัฒนาการ ในโปรเจ็กต์นี้เธอได้ถ่ายทอดอิทธิพลของ COCKTAIL ผ่านมุมมองของตัวเองผ่านการสร้างซาวด์ใหม่ที่ทั้งอบอุ่นและมีชีวิตจากพลังของ Spatial Audio
สำหรับ MONICA ที่จะต้องออกเดินทางและอยู่ข้างนอกอย่างเป็นประจำเพื่อเข้าร่วมเซสชั่นแต่งเพลง ซ้อมดนตรี และขึ้นโชว์ ความลื่นไหลและโฟลว์การทำงานคือสิ่งที่สำคัญที่สุด พร้อมแชร์ว่า “ฉันเขียนเนื้อเพลงคร่าว ๆ ไว้ใน Notes บน iPhone แล้วซิงก์มันเข้า MacBook ทันทีผ่าน iCloud ซึ่งมันช่วยฉันกับทีมทำงานร่วมกันได้ทันทีอย่างง่ายดาย เหมือนเราพกสตูโอย่อม ๆ ติดตัวไปด้วยทุกที่เลย”
MONICA ยังเล่าต่ออีกว่า “หลังจากได้ลองใช้ซอฟต์แวร์ทำเพลงมาแล้วหลายตัว ฉันพบว่า Logic Pro ได้เปลี่ยนวิธีการทำเพลงฉันไปแล้ว เพราะ EQ ของ Logic Pro มันละเอียดมาก และสามารถกดปุ่มเดียวเพื่อปรับเสียง และเปิดปิดได้อย่างง่ายดาย มันให้เสียงที่เราต้องการได้เป๊ะจริง ๆ แล้วตัว Smart Tempo ก็ยังช่วยให้ทุกอย่างกลมกลืนขึ้น ชอบฟีเจอร์ที่มีเครื่องดนตรีบิวต์อิน และเอฟเฟกต์ plug-in ที่ให้มาด้วยเช่นกัน บอกเลยว่าเป็นแฟนของ Logic Pro อย่างเต็มตัวแล้วต่อจากนี้ เพราะการทำเพลงมันเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น”

Spatial Audio เป็นยิ่งกว่าเทคโนโลยี และให้พลังพิเศษที่ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านเสียงเพลงได้

สำหรับ TIGGER ศิลปินหนุ่มไฟแรง ที่มีเป้าหมายเป็นการสร้างความรู้สึกยูนีค ให้กับบทเพลง “ไม่เป็นรอง” จาก COCKTAIL ที่เขาจะครีเอทขึ้นใหม่ นั้นได้รับแรงบันดาลใจจากการมองผู้คนรอบตัว และอยากให้เสียงดนตรีมีความรู้สึกที่เป็นอะนาล็อก ในโทนอบอุ่น เหมือนล่องลอยอยู่ในจินตนาการและความทรงจำเก่า ๆ
TIGGER เล่าว่า “ในจุดนึงในชีวิตของคุณแม่ เขาเคยเป็นดีเจมาก่อน มันทำให้ผมเติบโตมาท่ามกลางเสียงดนตรีและเสียงเพลงในทุกเจนเนอเรชันของ iPod ผมจำได้ว่า iPod ของผมเต็มไปด้วยเพลงแนวเทคโน แจ๊ส โซล รวมถึงเพลงของไมเคิล แจ็กสัน และศิลปินอีกมากมาย สมัยผมเด็กๆ ผมชอบ Beyoncé มาก และเพลง ‘Love On Top’ ของ Beyoncé ทำให้ผมเปิดโลกและรู้ว่าเพียงแค่เปลี่ยนคีย์ก็สามารถสร้างพลังให้กับเพลงและผู้ฟังได้มากแค่ไหน”
แม้ว่าเขาจะเติบโตในครอบครัวที่มีพ่อแม่เป็นศิลปินชื่อดัง แต่ TIGGER ก็ได้ค้นหาตัวตนพร้อมก้าวเข้าสู่เส้นทางสายดนตรีด้วยการฝึกเล่นเครื่องดนตรีแทบทุกชนิด เพื่อค้นพบและสร้างซาวด์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
ภาพใกล้ของ Logic Pro บน MacBook Pro ของ TIGGER
TIGGER กำลังมิกซ์เพลงเลเยอร์ต่อเลเยอร์ให้เป็น Spatial Audio ด้วยพลังของชิป M4 Max ที่ช่วยให้โฟลว์การปรับแต่งสนุกและลื่นไหลได้บน MacBook Pro
TIGGER เล่นคีย์บอร์ดในสตูดิโอเพลง
ในการตีความเพลง “ไม่เป็นรอง” ของ COCKTAIL ใหม่อีกครั้งนั้น ทุกคอร์ดที่ TIGGER เล่นบนคีย์บอร์ดไหลเข้าสู่ Logic Pro บน MacBook Pro ของเขาอย่างแม่นยำ
สำหรับ TIGGER การได้ลองทำงานและครีเอทเพลงบน Spatial Audio ในสตูดิโอ นับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ในฐานะของคนที่เล่นเครื่องดนตรีหลายชนิด Spatial Audio ช่วยให้การก้าวขีดจำกัดของศักยภาพเป็นเรื่องที่ง่ายดายภายในพริบตา เขากล่าวเสริมว่า “มันทำให้เราเหมือนเราได้ก้าวเข้าไปอยู่ในเพลง อีกทั้งยังสร้างความเป็นไปได้ และความรู้สึกแบบสามมิติที่มันก้องและติดอยู่ในหัวเรา”
เมื่อต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ เขาสามารถเช็คงานมิกซ์และเพลงต่าง ๆ ผ่าน MacBook Pro, iPhone iPad Pro ผ่านลำโพงที่ built-in ในแต่ละอุปกรณ์ รวมถึง AirPods Max TIGGER กล่าวทิ้งท้ายว่า “สิ่งที่ทำให้ผมทึ่งสุดๆเลยคือคุณภาพของเสียงที่สม่ำเสมอในทุกอุปกรณ์ และที่สำคัญผมหลงรักการทำเพลง Spatial Audio บนเครื่อง Mac ของผม ที่ให้ผมได้ทดลองเทกซ์เจอร์ใหม่ ๆ และปรับเสียงให้เป็นสามมิติได้ลื่นไหล แรงพอที่จะรองรับทุกไอเดียที่ผมโยนเข้าไปหลายสิบ tracks ทำให้ผมได้โฟกัสกับการสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่”

สานต่อแรงบันดาลใจจากอดีต สู่ท่วงทำนองแห่งอนาคต

สำหรับ Yes Indeed, MONICA และ TIGGER โปรเจ็กต์นี้นอกจากจะเป็นความท้าทายแล้วเป็นบททดสอบที่จะสะท้อนตัวตนของพวกเขาในฐานะศิลปิน ผ่านการค้นพบวิธีในการถ่ายทอดศิลปะทางดนตรี ผ่านการสัมผัสประสบการณ์ของพลังเสียงแบบรอบทิศทาง ที่เชื่อมโยงเข้ากับความทรงจำในบทเพลงจากวง COCKTAIL
Yes Indeed กล่าวปิดท้ายว่า “ดนตรีและเสียงเพลงในวันนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขั้นตอนและอุปกรณ์อีกต่อไป แต่มันอยู่ที่ตัวเราและจินตนาการมากกว่า พวกเราชอบทำเพลงในสตูดิโอของเรามาก แต่บางครั้งแรงบันดาลใจก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาระหว่างทาง เราแคปเจอร์แต่ละโมเมนต์และไอเดียบน iPad และกลับมาสานต่อบน Mac เพราะเราเลือกที่ใช้อิสระในการสร้างสรรค์อะไรก็ได้บน MacBook Pro ของเรา” 
ด้วยพลังของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการใหม่ๆจาก Apple บวกกับ Spatial Audio ที่เปิดมิติใหม่ของเสียง ศิลปินรุ่นใหม่กลุ่มนี้เป็นผู้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เมื่อสิ่งเหล่านี้อยู่ในมือที่ถูกต้องแล้ว เทคโนโลยีไม่ได้เป็นคนสร้างเสียงเพลง — แต่มันเป็นสิ่งที่ช่วยปลดปล่อยศิลปินให้สามารถแสดงตัวตนได้อย่างเต็มที่และเต็มพลัง ทั้งยังให้ผู้ฟังได้ค้นพบเพลงฮิตในตำนานในรูปแบบใหม่ได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เปลี่ยนแปลงและยกระดับประสบการณ์การรับฟังบน Apple Music
อัลบั้ม Ours Ever – a Tribute to COCKTAIL พร้อมให้ฟังแล้ววันนี้บน Apple Music ในรูปแบบ Spatial Audio โดยรวม 9 แทร็กเพลงจากศิลปินรุ่นใหม่ภายใต้ค่าย GMM Grammy ได้แก่ Jung PERSES, MEYOU, MONICA, Only Monday, Samui, XX, TIGGER, Yes Indeed และ Bomb at Track แฟน ๆ สามารถเพิ่มอัลบั้มนี้ไว้ใน Apple Music และสัมผัสประสบการณ์เสียงรอบทิศทางได้ผ่านอุปกรณ์ที่รองรับ รวมถึงลงทะเบียนเข้าร่วม Today at Apple รอบพิเศษ เพื่อสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างสรรค์เพลงในระบบ Spatial Audio บน Logic Pro ไปกับ XX, MONICA และ TIGGER
แชร์บทความ

Media

  • เนื้อหาของบทความนี้

  • รูปภาพในบทความนี้

สื่อมวลชน

ช่องทางให้ความช่วยเหลือของ Apple สำหรับสื่อมวลชน

media.thailand@apple.com