ที่สุดของนาฬิกาสปอร์ตและการผจญภัย
วันนี้มาในสีดำ

แข็งแกร่งขั้นสุด

ตัวเรือนไทเทเนียม 49 มม. ที่สมบุกสมบันซึ่งเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างน้ำหนัก ความทนทาน และการทนต่อการกัดกร่อน พร้อมความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ 100 เมตร^Footnote 11 และทนฝุ่นที่ระดับ IP6X^Footnote 20

แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานอย่างน่าทึ่ง

ลุยได้เกือบทุกอย่างด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 36 ชั่วโมงจากการชาร์จเพียงครั้งเดียว โดยใช้งานได้นานสูงสุด 72 ชั่วโมง เมื่อตั้งค่าประหยัดพลังงาน และสูงสุด 17 ชั่วโมง เมื่อใช้ในการออกกำลังกายอย่างเต็มรูปแบบในโหมดประหยัดพลังงาน พร้อมอัตราการเต้นของหัวใจและ GPS เต็มรูปแบบ^Footnote 17

GPS ที่แม่นยำ

มาพร้อมระบบ GPS ความถี่คู่ที่แม่นยำ และจัดว่าเป็น GPS ที่แม่นยำที่สุดบนนาฬิกาสปอร์ต^Footnote 19

คุณสมบัติด้านการออกกำลังกาย

รุ่น Ultra มาพร้อมค่าวัด มุมมอง และประสบการณ์สุดล้ำอย่างการออกกำลังกายแบบกำหนดเอง ความหนักเบาในการฝึก โซนอัตราการเต้นของหัวใจ คุณสมบัติด้านเพซ และอีกมากมาย

Apple Watch รุ่นไหนเหมาะกับคุณ

Apple Watch SE

เริ่มต้นที่ ฿7,900

ตัวเรือนอะลูมิเนียมขนาด 44 มม. หรือ 40 มม.

จอภาพ Retina LTPO OLED

สูงสุด 1,000 นิต

การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจเร็วและช้า Footnote ¹

แอป IRNF Footnote ²

การแจ้งเตือนคาร์ดิโอฟิตเนสระดับต่ำ

การติดตามการนอนหลับ

แอปสัญญาณชีพแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ และระยะเวลานอนหลับ Footnote ⁴

การติดตามรอบเดือน Footnote ⁶

SOS ฉุกเฉิน Footnote ⁷

การตรวจจับการล้มและการตรวจจับการชนกัน Footnote ^{7, 8}

ทนน้ำ Footnote ⁹

กันน้ำขณะว่ายน้ำ Footnote ⁹

รุ่น GPS

รองรับการเชื่อมต่อระบบเซลลูลาร์ Footnote ¹²

SiP รุ่น S8

ค้นหา iPhone

นานสูงสุด 18 ชั่วโมงเมื่อใช้งานปกติ Footnote ¹⁵

โหมดประหยัดพลังงาน

Apple Watch Series 10

เริ่มต้นที่ ฿14,900

ตัวเรือนอะลูมิเนียมหรือไทเทเนียมขนาด 46 มม. หรือ 42 มม.

จอภาพ Retina LTPO3 OLED แบบติดตลอด

OLED มุมกว้าง

สูงสุด 2,000 นิต

สว่างขึ้นสูงสุด 40% เมื่อมองจากด้านข้าง

แอป ECG Footnote ¹

การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจเร็วและช้า Footnote ¹

แอป IRNF Footnote ²

การแจ้งเตือนคาร์ดิโอฟิตเนสระดับต่ำ

แอปออกซิเจนในเลือด Footnote ³

การติดตามการนอนหลับ

แอปสัญญาณชีพแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ อุณหภูมิข้อมือ ออกซิเจนในเลือด และระยะเวลานอนหลับ Footnote ^{3, 4}

การตรวจวัดอุณหภูมิ Footnote ⁵

การติดตามรอบเดือนพร้อมการคาดคะเนช่วงไข่ตกจากข้อมูลย้อนหลัง Footnote ⁶

SOS ฉุกเฉิน Footnote ⁷

การตรวจจับการล้มและการตรวจจับการชนกัน Footnote ^{7, 8}

ทนน้ำ Footnote ¹⁰

กันน้ำขณะว่ายน้ำ Footnote ¹⁰

ตัววัดความลึก 6 ม.

เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำ

รุ่น GPS

รองรับการเชื่อมต่อระบบเซลลูลาร์ Footnote ¹²

SiP รุ่น S10

คำสั่งนิ้ว "แตะสองครั้ง"

คุณสมบัติตำแหน่งที่ตั้งจริงสำหรับ iPhone Footnote ¹⁴

นานสูงสุด 18 ชั่วโมงเมื่อใช้งานปกติ Footnote ¹⁶

สูงสุด 36 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน Footnote ¹⁶

ชาร์จเร็วยิ่งขึ้น (0-80% ในเวลาประมาณ 30 นาที) Footnote ¹⁸

Apple Watch Ultra 2

เริ่มต้นที่ ฿29,900

ตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 49 มม.

จอภาพ Retina LTPO2 OLED แบบติดตลอด

สูงสุด 3,000 นิต

แอป ECG Footnote ¹

การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจเร็วและช้า Footnote ¹

แอป IRNF Footnote ²

การแจ้งเตือนคาร์ดิโอฟิตเนสระดับต่ำ

แอปออกซิเจนในเลือด Footnote ³

การติดตามการนอนหลับ

การตรวจวัดอุณหภูมิ Footnote ⁵

การติดตามรอบเดือนพร้อมการคาดคะเนช่วงไข่ตกจากข้อมูลย้อนหลัง Footnote ⁶

SOS ฉุกเฉิน Footnote ⁷

การตรวจจับการล้มและการตรวจจับการชนกัน Footnote ^{7, 8}

เสียงไซเรน

ทนน้ำ Footnote ¹¹

กันน้ำขณะว่ายน้ำ Footnote ¹¹

ตัววัดความลึก 40 ม.

เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำ

กีฬาทางน้ำความเร็วสูง

การดำน้ำสกูบาเชิงนันทนาการที่ความลึกถึง 40 ม.

GPS แบบสองคลื่นความถี่ที่แม่นยำ

การเชื่อมต่อระบบเซลลูลาร์ Footnote ¹³

SiP รุ่น S9

คำสั่งนิ้ว "แตะสองครั้ง"

คุณสมบัติตำแหน่งที่ตั้งจริงสำหรับ iPhone Footnote ¹⁴

นานสูงสุด 36 ชั่วโมงเมื่อใช้งานปกติ Footnote ¹⁷

สูงสุด 72 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน Footnote ¹⁷

ชาร์จเร็ว (0-80% ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) Footnote ¹⁸

อ่านคำเตือนในฉลากและเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ก่อนใช้ แอป ECG พร้อมให้ใช้งานบน Apple Watch Series 4 ขึ้นไป (ไม่รวม Apple Watch SE) โดยจำเป็นต้องใช้งานกับ Apple Watch Series 4 ขึ้นไป และ iOS 12.1 ขึ้นไป ดูรายละเอียดการใช้งานร่วมกันที่ apple.com/th/watch แอป ECG ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้บุคคลอายุต่ำกว่า 22 ปีใช้งาน แอป ECG ทำให้ Apple Watch สามารถประมวลผลคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ได้เหมือนกับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบจุดเดียว (Lead I) ซึ่งอาจจัดเป็นประเภทจังหวะไซนัส (Sinus) หรือภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (AFib) ในรูปแบบที่สามารถจำแนกได้ด้วยรูปคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
แอป IRNF จำเป็นต้องใช้งานกับ Apple Watch Series 1 ขึ้นไป และ iOS 12.1 ขึ้นไป แอป IRNF ใช้วิเคราะห์ข้อมูลอัตราการเต้นของชีพจรเพื่อระบุจำนวนครั้งของจังหวะการเต้นของหัวใจที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นสัญญาณของภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว [Atrial Fibrillation (AFib)] คุณสมบัตินี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานโดยบุคคลอายุต่ำกว่า 22 ปี หรือผู้ที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (AFib) มาก่อน
แอปออกซิเจนในเลือดออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านสุขภาพที่ดีโดยทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อใช้ทางการแพทย์
แอปสัญญาณชีพออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านสุขภาพที่ดีโดยทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อใช้ทางการแพทย์
คุณสมบัติการติดตามค่าอุณหภูมิไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้ทางการแพทย์ คุณสมบัติการติดตามค่าอุณหภูมิสามารถใช้งานได้บน Apple Watch Series 8 และใหม่กว่า และ Apple Watch Ultra ทุกรุ่น
ไม่ควรใช้แอปการติดตามรอบเดือนเพื่อการคุมกำเนิดหรือวินิจฉัยสภาวะสุขภาพของร่างกาย
คุณสมบัติ SOS ฉุกเฉินต้องใช้การเชื่อมต่อระบบเซลลูลาร์หรือการโทรผ่าน Wi-Fi โดยมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจาก Apple Watch หรือ iPhone ที่อยู่ใกล้ๆ
การอัปเดตคุณสมบัติการตรวจจับการล้มพร้อมให้ใช้งานบน Apple Watch Series 4 และใหม่กว่า ที่ใช้ watchOS 8 และใหม่กว่า
Apple Watch SE มีความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ 50 เมตรตามมาตรฐาน ISO 22810:2010 ซึ่งหมายถึงอาจสามารถใช้ในกิจกรรมน้ำตื้น เช่น การว่ายน้ำในสระหรือทะเล ไม่ควรใช้ Apple Watch SE ในการดำน้ำสกูบา การเล่นสกีน้ำ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำที่มีความเร็วสูงหรือต้องอยู่ในน้ำที่ลึกกว่าระดับน้ำตื้น ความสามารถในการทนน้ำจะไม่คงอยู่ถาวรและอาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ support.apple.com/th-th/HT205000(เปิดในหน้าต่างใหม่)
Apple Watch Series 10 และ Apple Watch SE มีความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร ตามมาตรฐาน ISO 22810:2010 ซึ่งหมายถึงอาจสามารถใช้ในกิจกรรมน้ำตื้น เช่น การว่ายน้ำในสระหรือทะเล แต่ไม่ควรใช้ในการดำน้ำสกูบา การเล่นสกีน้ำ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำที่มีความเร็วสูงหรือต้องอยู่ในน้ำที่ลึกกว่าระดับน้ำตื้น ความสามารถในการทนน้ำจะไม่คงอยู่ถาวรและอาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ support.apple.com/th-th/HT205000(เปิดในหน้าต่างใหม่) Series 10 ผ่านการรับรองการทนฝุ่นที่ระดับ IP6X เช่นกัน
Apple Watch Ultra 2 มีความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ 100 เมตร ตามมาตรฐาน ISO 22810 ซึ่งอาจใช้สำหรับการดำน้ำสกูบาเชิงนันทนาการ (ร่วมกับแอปของบริษัทอื่นที่รองรับจาก App Store) ที่ความลึกถึง 40 เมตร และกีฬาทางน้ำความเร็วสูง ไม่ควรใช้ Apple Watch Ultra 2 ในการดำน้ำที่ลึกกว่าระดับ 40 เมตร ความสามารถในการทนน้ำจะไม่คงอยู่ถาวรและอาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ support.apple.com/th-th/HT205000
ต้องมีแผนบริการระบบไร้สายสำหรับบริการระบบเซลลูลาร์ โปรดติดต่อผู้ให้บริการของคุณเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม การเชื่อมต่ออาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความพร้อมในการให้บริการเครือข่าย ตรวจสอบผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายที่เข้าร่วมและคุณสมบัติที่เข้าเกณฑ์ได้ที่ apple.com/th/watch/cellular(เปิดในหน้าต่างใหม่) ดูคำแนะนำการตั้งค่าเพิ่มเติมได้ที่ support.apple.com/th-th/HT207578(เปิดในหน้าต่างใหม่)
ระบบเซลลูลาร์ไม่สามารถใช้งานได้ทุกที่ที่ Apple Watch Ultra วางจำหน่าย ดู apple.com/th/watch/cellular(เปิดในหน้าต่างใหม่) โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของคุณ
ต้องใช้กับ iPhone และ Apple Watch ที่ใช้ชิปอัลตร้าไวด์แบนด์ รุ่นที่ 2
แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดวันอ้างอิงจากการใช้งานดังนี้ ดูเวลา 90 ครั้ง แจ้งเตือน 90 ครั้ง ใช้งานแอป 45 นาที และออกกำลังกายพร้อมกับเล่นเพลงจาก Apple Watch ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 60 นาที ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 18 ชั่วโมง ส่วนการใช้งาน Apple Watch SE (รุ่นที่ 2) (รุ่น GPS) นั้นรวมถึงการเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน Bluetooth ตลอดช่วงระยะเวลาการทดสอบ 18 ชั่วโมง และการใช้งาน Apple Watch SE (รุ่นที่ 2) (รุ่น GPS + Cellular) นั้นรวมถึงการเชื่อมต่อ LTE เป็นเวลา 4 ชั่วโมง และการเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 14 ชั่วโมง ตลอดช่วงระยะเวลาการทดสอบ 18 ชั่วโมง ซึ่ง Apple ทำการทดสอบในเดือนสิงหาคม 2022 โดยใช้ Apple Watch SE (รุ่นที่ 2) (รุ่น GPS) และ Apple Watch SE (รุ่นที่ 2) (รุ่น GPS + Cellular) รุ่นก่อนการผลิตจริง ซึ่งแต่ละเรือนจับคู่กับ iPhone ทั้งนี้อุปกรณ์ทุกเครื่องได้รับการทดสอบโดยใช้ซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่นั้นแตกต่างกันไปตามการใช้งาน การกำหนดค่า เครือข่ายเซลลูลาร์ ความแรงของสัญญาณ และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง โดยผลลัพธ์จริงจะแตกต่างออกไป
แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดวันอ้างอิงจากการใช้งานดังนี้ ดูเวลา 300 ครั้ง แจ้งเตือน 90 ครั้ง ใช้งานแอป 15 นาที และออกกำลังกายพร้อมกับเล่นเพลงจาก Apple Watch ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 60 นาที ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 18 ชั่วโมง ส่วนการใช้งาน Apple Watch Series 10 (รุ่น GPS) นั้นรวมถึงการเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน Bluetooth ตลอดช่วงระยะเวลาการทดสอบ 18 ชั่วโมง และการใช้งาน Apple Watch Series 10 (รุ่น GPS + Cellular) นั้นรวมถึงการเชื่อมต่อ LTE เป็นเวลา 4 ชั่วโมง และการเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 14 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 18 ชั่วโมง ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ในโหมดประหยัดพลังงานอ้างอิงจากการใช้งานดังนี้ ดูเวลา 600 ครั้ง แจ้งเตือน 180 ครั้ง ใช้งานแอป 30 นาที และออกกำลังกายพร้อมกับเล่นเพลงจาก Apple Watch ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 60 นาที ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 36 ชั่วโมง ส่วนการใช้งาน Apple Watch Series 10 (รุ่น GPS) นั้นรวมถึงการเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน Bluetooth ตลอดช่วงระยะเวลาการทดสอบ 36 ชั่วโมง และการใช้งาน Apple Watch Series 10 (รุ่น GPS + Cellular) นั้นรวมถึงการเชื่อมต่อ LTE เมื่อต้องการใช้งาน และการเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 28 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 36 ชั่วโมง ซึ่ง Apple ทำการทดสอบในเดือนสิงหาคม 2024 โดยใช้ Apple Watch Series 10 (รุ่น GPS) และ Apple Watch Series 10 (รุ่น GPS + Cellular) รุ่นก่อนการผลิตจริง ซึ่งแต่ละเรือนจับคู่กับ iPhone ทั้งนี้อุปกรณ์ทุกเครื่องได้รับการทดสอบโดยใช้ซอฟต์แวร์รุ่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่นั้นแตกต่างกันไปตามการใช้งาน การกำหนดค่า เครือข่ายเซลลูลาร์ ความแรงของสัญญาณ และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง โดยผลลัพธ์จริงจะแตกต่างออกไป
แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้หลายวันอ้างอิงจากการใช้งานดังนี้ ดูเวลา 600 ครั้ง แจ้งเตือน 180 ครั้ง ใช้งานแอป 30 นาที และออกกำลังกายพร้อมกับเล่นเพลงจาก Apple Watch ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 60 นาที ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 36 ชั่วโมง ส่วนการใช้งาน Apple Watch Ultra 2 (รุ่น GPS + Cellular) นั้นรวมถึงการเชื่อมต่อ LTE เป็นเวลา 8 ชั่วโมง และการเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 28 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 36 ชั่วโมง ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ในโหมดประหยัดพลังงานอ้างอิงจากการใช้งานดังนี้ ดูเวลา 1,200 ครั้ง แจ้งเตือน 360 ครั้ง ใช้งานแอป 60 นาที และออกกำลังกายพร้อมกับเล่นเพลงจาก Apple Watch ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 60 นาที จำนวน 2 รอบ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 72 ชั่วโมง ส่วนการใช้งาน Apple Watch Ultra 2 (รุ่น GPS + Cellular) นั้นรวมถึงการเชื่อมต่อ LTE เมื่อต้องการใช้งาน และการเชื่อมต่อกับ iPhone ผ่าน Bluetooth เป็นเวลา 60 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 72 ชั่วโมง ซึ่ง Apple ทำการทดสอบในเดือนสิงหาคม 2024 โดยใช้ Apple Watch Ultra 2 (รุ่น GPS + Cellular) รุ่นก่อนการผลิตจริง ซึ่งจับคู่กับ iPhone ทั้งนี้อุปกรณ์ทุกเครื่องได้รับการทดสอบโดยใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นก่อนเปิดให้ใช้งานจริง ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่นั้นแตกต่างกันไปตามการใช้งาน การกำหนดค่า เครือข่ายเซลลูลาร์ ความแรงของสัญญาณ และปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง โดยผลลัพธ์จริงจะแตกต่างออกไป
การชาร์จเร็วสามารถใช้งานได้กับ Apple Watch Series 7 หรือใหม่กว่า ซึ่งรวมถึงรุ่น Ultra ทุกรุ่น แต่จะใช้ไม่ได้กับ Apple Watch SE ทุกรุ่น
อ้างอิงจากความถูกต้องของแผนที่เส้นทางและระยะทาง ในสภาพแวดล้อมในเมืองที่ท้าทาย
Apple Watch Ultra 2 ผ่านการรับรองการทนฝุ่นที่ระดับ IP6X

ชื่อและรายละเอียดของผู้จัดจำหน่าย: บริษัท แอปเปิ้ล เซาท์ เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด

999/9 อาคาร ดิออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 44 ห้องเลขที่ เอชเอช 4401-6 และ เอชเอช 4408-9 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ประเทศไทย โทร. +66 2088 4300

ใบอนุญาตโฆษณาเลขที่ ฆพ.1/2566, 2/2566, 9/2566, 176/2566, 888/2566

ใบรับแจ้งรายการละเอียดเลขที่ 64-2-2-2-0004085, 64-2-2-2-0002928

ดูข้อมูล Apple Watch Ultra 2

ที่สุดของนาฬิกาสปอร์ตและการผจญภัย วันนี้มาในสีดำ

แข็งแกร่งขั้นสุด

แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานอย่างน่าทึ่ง

GPS ที่แม่นยำ

คุณสมบัติด้านการออกกำลังกาย

Apple Watch รุ่นไหนเหมาะกับคุณ

ที่สุดของนาฬิกาสปอร์ตและการผจญภัย
วันนี้มาในสีดำ