“ค้นหาของฉัน” ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลของคุณและทำให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่คุณจะแชร์ได้
ถ้าคุณทำ iPhone, iPad, Apple Watch, iPod touch หรือ Mac ที่เปิดใช้งาน “ค้นหาของฉัน” สูญหายหรือวางลืมไว้ “ค้นหาของฉัน” สามารถช่วยคุณค้นหาอุปกรณ์ของคุณบนแผนที่ได้ นอกจากนี้ “ค้นหาของฉัน” ยังอนุญาตให้คุณเล่นเสียง ล็อคจากระยะไกลและแสดงข้อความ หรือปัดจากระยะไกลบนอุปกรณ์ที่คุณพยายามค้นหา “ค้นหาของฉัน” ยังช่วยคุณระบุตำแหน่งหรือเล่นเสียงบนอุปกรณ์เสริมที่รองรับได้อีกด้วย
เมื่อคุณลงชื่อเข้าและเปิดใช้งาน iCloud บนอุปกรณ์ของคุณ คุณสมบัติบางอย่างของ “ค้นหาของฉัน” จะถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ คุณสมบัติเหล่านี้รวมถึงการเข้าร่วมในเครือข่าย “ค้นหาของฉัน” ซึ่งเป็นเครือข่ายที่สร้างขึ้นจากอุปกรณ์ Apple เพื่อช่วยค้นหาอุปกรณ์ที่สูญหายหรือสิ่งของที่ใช้งานร่วมกันได้ตามที่อธิบายไว้ด้านล่าง และความสามารถในการส่งเสียงดังบนอุปกรณ์ของคุณ ล็อคจากระยะไกลและแสดงข้อความบนอุปกรณ์ หรือลบข้อมูลจากระยะไกล คุณจะได้รับการแจ้งเตือนอีกด้วยหากอุปกรณ์และสิ่งของที่รองรับของคุณไม่ได้อยู่กับคุณ iPhone, iPad, iPod touch, Apple Watch และ Mac บางรุ่นของคุณจะได้รับการปกป้องด้วยการล็อคการเข้าใช้เครื่อง และไม่สามารถถูกลบข้อมูลและเปิดใช้งานใหม่ได้โดยไม่มีรหัสผ่าน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ไปที่ support.apple.com/kb/HT208987 การเปิดใช้งาน “ค้นหาของฉัน” บน iPhone ของคุณจะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติบน Apple Watch ที่จับคู่อยู่ คุณยังสามารถเปิดใช้งาน “ค้นหาของฉัน” แบบแยกต่างหากสำหรับ Apple Watch ซึ่งจะเปิดใช้งานบน iPhone ที่จับคู่อยู่ของคุณได้อีกด้วย
เมื่อคุณเปิดใช้งานบริการหาตำแหน่งที่ตั้ง คุณสามารถเลือกที่จะแชร์ตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันของอุปกรณ์ได้โดยใช้แชร์ตำแหน่งที่ตั้งของฉัน ถ้าทั้งคุณและเพื่อนของคุณใช้ iOS 17 อยู่ Apple จะไม่สามารถเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งของคุณได้ ถ้าคุณมีความสัมพันธ์การแชร์ที่มีอยู่ก่อนหน้ากับเพื่อนที่ไม่ได้ใช้ iOS 17 อยู่ Apple อาจสามารถเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งของคุณได้หากมีคำขอจากเพื่อนที่คุณแชร์ด้วย ตำแหน่งที่ตั้งของคุณจะถูกเก็บไว้นานสูงสุด 24 ชั่วโมงเพื่อให้บริการ หลังจากนั้นตำแหน่งที่ตั้งจะถูกลบออก
“ค้นหาของฉัน” สามารถช่วยคุณค้นหาอุปกรณ์บนแผนที่ได้ หากคุณเปิดใช้งานบริการหาตำแหน่งที่ตั้ง ถ้าคุณเลือกเปิดใช้งานคุณสมบัติส่งตำแหน่งที่ตั้งล่าสุด ตำแหน่งที่ตั้งล่าสุดที่ทราบของอุปกรณ์ของคุณจะถูกส่งไปที่ Apple โดยอัตโนมัติทุกครั้งที่แบตเตอรี่ของอุปกรณ์ของคุณอยู่ในระดับต่ำเกินไป
“ค้นหาของฉัน” สามารถใช้เครือข่าย “ค้นหาของฉัน” เพื่อช่วยค้นหาอุปกรณ์ได้แม้ว่าอุปกรณ์จะไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และแม้ว่าอุปกรณ์จะถูกปิดเครื่องหรือถูกลบข้อมูลในกรณีของอุปกรณ์ที่รองรับ อุปกรณ์ในเครือข่าย “ค้นหาของฉัน” ใช้เทคโนโลยีบลูทูธไร้สายเพื่อตรวจหาอุปกรณ์ที่สูญหายหรือสิ่งของที่ใช้งานร่วมกันได้ที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึง AirTags และผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานร่วมกันได้ของบริษัทอื่นและลงทะเบียนกับ Apple ID ของคุณ และเพื่อรายงานตำแหน่งที่ตั้งโดยประมาณกลับมายังเจ้าของ ถ้าอุปกรณ์ถูกปิดเครื่องหรือถูกลบข้อมูล สมาชิกในกลุ่มการแชร์กันในครอบครัวของเจ้าของซึ่งพวกเขาเลือกที่จะแชร์ตำแหน่งที่ตั้งด้วยจะสามารถดูตำแหน่งที่ตั้งนั้นได้เช่นกัน การโต้ตอบจะได้รับการเข้ารหัสแบบต้นทางถึงปลายทาง และ Apple ไม่สามารถเห็นตำแหน่งที่ตั้งของอุปกรณ์ออฟไลน์หรืออุปกรณ์ที่รายงานได้ เมื่ออุปกรณ์ของคุณเข้าร่วมในเครือข่าย “ค้นหาของฉัน” อุปกรณ์สามารถถูกค้นหาได้ทั้งโดยเครือข่ายและความช่วยเหลือที่ไม่ระบุตัวตนที่ช่วยหาอุปกรณ์อื่นที่สูญหาย คุณสามารถเลือกให้อุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS ของคุณไม่เข้าร่วมในเครือข่าย “ค้นหาของฉัน” ได้โดยไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > ค้นหาของฉัน > ค้นหา [อุปกรณ์] ของฉัน แล้วแตะเพื่อปิดใช้งานเครือข่าย “ค้นหาของฉัน” คุณสามารถเลือกให้ Mac ของคุณไม่เข้าร่วมในเครือข่าย “ค้นหาของฉัน” ได้โดยไปที่การตั้งค่าระบบ > [ชื่อของคุณ] > iCloud แล้วคลิกตัวเลือกที่อยู่ถัดจาก “ค้นหา Mac ของฉัน” จากนั้นปิดใช้เครือข่าย “ค้นหาของฉัน” สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AirTags และผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานร่วมกันได้ของบริษัทอื่น รวมถึงคำแนะนำในการเพิ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปยัง “ค้นหาของฉัน” และลงทะเบียนกับ Apple ID ของคุณ ให้ไปที่ support.apple.com/kb/HT211331
คุณสามารถปิดใช้ “ค้นหาของฉัน” และการล็อคการเข้าใช้เครื่องบนอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS ของคุณได้โดยไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > ค้นหาของฉัน > ค้นหา [อุปกรณ์] ของฉัน แล้วแตะเพื่อปิดใช้ “ค้นหา iPhone ของฉัน” หรือ “ค้นหา iPad ของฉัน” และบน Mac ของคุณโดยไปที่การตั้งค่าระบบ > [ชื่อของคุณ] > iCloud แล้วเลิกเลือก “ค้นหา Mac ของฉัน”
ถ้าคุณเลือกรับการแจ้งเตือนเมื่ออุปกรณ์และสิ่งของที่รองรับไม่ได้อยู่กับคุณ อุปกรณ์ของคุณจะแนะนำตำแหน่งที่ตั้งที่คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือน เช่น ที่บ้านหรือที่ทำงานของคุณ ตำแหน่งที่ตั้งเหล่านี้จะถูกจัดเก็บในลักษณะที่ Apple ไม่สามารถอ่านได้ คุณยังสามารถปิดใช้การแจ้งเตือนแบบแยกต่างหากในแอป “ค้นหาของฉัน” บนอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS ของคุณได้อีกด้วยโดยแตะ “อุปกรณ์” หรือ “สิ่งของ” แล้วแตะอุปกรณ์หรือสิ่งของ แตะแจ้งเตือนเมื่อลืมทิ้งไว้ จากนั้นแตะเพื่อปิดใช้แจ้งเตือนเมื่อลืมทิ้งไว้ ในแอป “ค้นหาของฉัน” บน Mac ให้คลิก “อุปกรณ์” หรือ “สิ่งของ” แล้วเลือกอุปกรณ์หรือสิ่งของ คลิกปุ่มข้อมูลบนอุปกรณ์หรือสิ่งของ จากนั้นปิดใช้แจ้งเตือนเมื่อลืมทิ้งไว้
พื้นฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ถ้าคุณใช้ “ค้นหาของฉัน” เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามความจำเป็นในการให้บริการ และเพื่อให้เป็นไปตามภาระผูกพันตามกฎหมายของเรา ในกรณีที่ความยินยอมเป็นพื้นฐานทางกฎหมายที่เหมาะสม เราขอความยินยอมตามที่กฎหมายท้องถิ่นกำหนด
ถ้ากฎหมายในท้องถิ่นที่บังคับใช้กำหนด เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามความจำเป็นเพื่อจุดประสงค์ด้านผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือเพื่อจุดประสงค์ของบุคคลหรือบริษัทอื่นเพื่อ:
ข้อมูลที่ใช้รวมถึง:
ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดย Apple จะได้รับการปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple เสมอ ซึ่งสามารถดูได้ที่ www.apple.com/th/privacy
วันที่เผยแพร่: 18 กันยายน 2023